เลือกอ่านหัวข้อที่ต้องการอ่าน
- สาเหตุที่ทำให้ฟันเหลืองดำ
- สีฟันบ่งบอกอะไรบ้าง
- การป้องกันฟันเหลือง
- การรักษาฟันเหลืองให้ขาว
- คอมโพสิตวีเนียร์คืออะไร
- คอมโพสิตวีเนียร์เหมาะกับใครบ้าง
- ข้อดีของการทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- ข้อจำกัดของการทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- การเตรียมตัวทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- ขั้นตอนการทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- การดูแลรักษาหลังทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- อาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- หากคอมโพสิตวีเนียร์(Composite Veneer)แตกทำอย่างไร
- รีวิวก่อน-หลังทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- ทำ คอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer) ที่ไหนดี
- คอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer) ราคาเท่าไหร่
- คำถามอื่นๆที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับ คอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
ปัญหาฟันเหลืองดำ ฟันสีคล้ำ ไม่ขาวสว่างเหมือนเมื่อก่อน
สาเหตุเกิดจากปัจจัยดังนี้
1. อาหาร/เครื่องดื่ม ที่มีสี เช่น ชา กาแฟ โคล่า น้ำอัดลมมีสี ไวน์ และผัก ผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิ้ล เบอร์รี่ และ มันฝรั่ง
อาหารทำให้ฟันเหลืองได้อย่างไร
ไม่ทานกาแฟ หรือ ชา ก็ฟันเหลืองได้
ไม่น่าเชื่อว่า การทานอาหารหรือเครื่องดื่มบางประเภททำให้ฟันมีสีที่เปลี่ยนไปได้ แม้อาหารนั้นจะไม่มีสีเลย เช่น เป็นผักผลไม้สีขาว ก็สามารถทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีเข้มหรือสีเหลืองได้ หากฟันสัมผัสอาหารประเภทนั้นๆเป็นประจำ
เพราะในอาหารแต่ละชนิดมีสารที่อยู่ในอาหารที่ทำให้ผิวฟันมีสีเข้มขึ้นได้ ดังเช่น
- สารโครโมเจน (Chromogen) เป็นสารที่มีสีในอาหารที่ทำให้ฟันมีสีเข้มขึ้น และทำปฏิกิริยากับสารตัวอื่นทำให้สีฝังลึกในฟัน ซึ่งมักจะพบในอาหารและเครื่องดื่ม ประเภท ชา กาแฟ และไวน์แดง
- สารพรีโครโมเจน (Prechromogen) เป็นสารที่ไม่มีสี พบในอาหารที่ไม่มีสี ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น มันฝรั่ง แอปเปิ้ล ที่เมื่อทานไปมากๆจะจับที่ผิวฟันและทำปฏิกิริยาจนทำให้ฟันมีสีเหลืองได้
- กรด (Acid) มีผลต่อสีฟัน จากการที่กรดจะมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวฟันให้หลุดลอก มีผิวขรุขระ จนทำให้เห็นเนื้อฟันสีเหลืองที่ชัดขึ้น และสีจากอาหาร สารที่อยู่ในอาหาร จะแทรกซึมและทำปฏิกิริยากับเนื้อฟันลึกขึ้น จนฟันมีสีเข้มแบบฝังลึกขึ้น ซึ่งอาหารที่มีกรดจะพบว่าในน้ำอัดลม ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ กาแฟ
- แทนนิน (Tannin) เป็นสารที่มีรสฝาดที่ทำให้ฟันเหลืองขึ้นเพราะไปช่วยให้สาร Chromogen สะสมที่ผิวฟันง่ายขึ้น โดยอาหารที่มี Tannin สูง ได้แก่ ชาดำ ไวน์ กาแฟ
ซึ่งมีทั้ง Chromogen และ Tannin สูง จึงทำให้ฟันมีสีเหลืองมากขึ้น
อาหารที่ทำให้ฟันเหลืองที่พบได้บ่อย
ชาและกาแฟ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่ทำให้ฟันเหลืองง่าย และขจัดคราบเหลืองออกได้ยาก และมีโอกาสเกิดคราบเหลืองซ้ำอีกหลังจากฟอกสีฟันแล้ว และแม้จะแปรงฟันอย่างถูกวิธีก็ไม่อาจขัดคราบเหลืองออกได้หมด เนื่องจากกาแฟมีทั้งความเป็นกรดที่กัดกร่อนผิวเคลือบฟัน และมีสาร Chromogen ปริมาณสูง รวมถึงมี Tannin สูงที่ทำให้ Chromogen สะสมบนผิวเคลือบฟันแน่น โดยเฉพาะ ชาดำจะมี Tannin ในปริมาณสูง ในส่วนของ ชาขาว ชาเขียว และชาสมุนไพร จะมี Tannin ในปริมาณที่น้อยกว่า จึงอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าชาประเภทอื่นที่ไม่ก่อให้เกิดคราบเหลืองบนผิวฟัน
น้ำอัดลม เครื่องดื่มผสมโซดา และเครื่องดื่มเกลือแร่บางชนิดที่ผสมกรดซิตริก(รสมะนาว รสส้ม รสเลม่อน) มีฤทธิ์เป็นกรดกัดกร่อนผิวเคลือบฟัน และในโคล่า มี Chromogen สูงที่ก่อให้เกิดสี ทำให้ฟันยิ่งมีคราบเหลืองสะสมลงเนื้อฟันลึก อีกทั้งรสหวานในเครื่องดื่มประเภทนี้ทำให้ช่องปากยิ่งเป็นกรดมากขึ้น ทำให้ฟันมีคราบเหลืองสะสม
เบียร์ ไวน์แดง ไวน์ขาว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในกลุ่มนี้มีฤทธิ์เป็นกรด ทำลายผิวเคลือบฟัน ในส่วนของไวน์แดงมี Chromogen และ Tannin ที่ทำให้สะสมที่ผิวฟันและทำให้ฟันเหลืองมากขึ้น ส่วนไวน์ขาวเป็นกรด แม้จะไม่มี Chromogen แต่ก็มี Tannin ที่ทำให้ chromogen ของอาหารประเภทอื่นเกาะที่ผิวฟันมากขึ้นจึงเกิดคราบเหลืองได้เช่นกัน
ซอสถั่วเหลืองและซอสมะเขือเทศ รวมถึงผงกะหรี่ เป็นอาหารที่มีสีเข้ม ทำให้เกิดคราบเหลืองที่ผิวฟัน และซอสยังมีความเป็นกรดที่กัดกร่อนผิวฟันอีกด้วย ทำให้สีอาหารแทรกซึมลงเนื้อฟันจนฟันเหลืองเข้มขึ้นได้
2.บุหรี่หรือยาสูบ ทั้งบุหรี่ไฟฟ้า ยาสูบแบบสูบและยาสูบแบบเคี้ยว เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่ทำให้ฟันเหลืองคล้ำ เพราะมีสารกำมะถัน ทาร์ และการเผาไหม้ เมื่อสูบบ่อยๆก็จะทำให้สารเคมีสะสมที่ผิวฟันในปริมาณมาก จนฝั่งลึกลงไปในเนื้อฟัน ซึ่งจะทำให้เอาคราบออกจากฟันยากมาก จนการฟอกสีฟันอาจไม่ช่วยให้ขาวขึ้นได้
3.สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดี เนื้อฟันที่มีสีเหลืองจะมีผิวฟันสีขาวโปร่งเคลือบเป็นชั้นบางๆ เมื่อไม่ดูแลสุขภาวะช่องปากให้ดี ลืมแปรงฟันเป็นประจำ ไม่ใช้ไหมขัดฟัน มีคราบพลัคเกาะ ก็จะทำให้ผิวเคลือบฟันเปราะ
4.โรคบางชนิด ก็มีผลต่อผิวเคลือบฟันหรือ Enamel และเนื้อฟัน (Dentin) ที่อยู่ใต้ผิวฟัน เช่นโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี หรือการรักษาโรคบางวิธีเช่น การฉายแสงหรือคีโมบำบัด ที่บริเวณศีรษะหรือคอ ก็อาจทำให้ฟันเปลี่ยนสีได้ รวมถึงการติดเชื้อบางชนิดในหญิงตั้งครรภ์ ก็อาจทำให้สีฟันของลูกผิดปกติได้จากการมีผลในระหว่างสร้างผิวเคลือบฟัน(Enamel)
5. ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวะนะ เช่น Tetracycline , Doxycycline โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปีที่ใช้ยานี้ อาจทำให้ฟันมีสีที่ผิดปกติในช่วงที่ฟันมีการเจริญเติบโต
รวมถึงน้ำยาบ้วนปากบางชนิด ที่มีส่วนผสมของ chlorhexidine และ cetylpyridinium chloride ก็ทำให้ฟันมีสีผิดปกติ
รวมถึงยาแก้แพ้(Antihistamines)บางชนิด เช่น Benadryl , ยาจิตเวทบางชนิด , ยารักษาความดันโลหิต ยาแก้หอบหืดบางชนิด
6. วัสดุที่ใช้ทางทันตกรรมบางชนิด เช่น อะมัลกัม (Amalgum) ที่ใช้เป็นวัสดุอุดฟัน รวมถึงวัสดุที่มีส่วนประกอบของ silver sulfide ก็สามารถทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีเทาหรือดำได้
7. อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ผิวชั้นนอกของ Enamel เปราะบางลง และเผยให้เห็นเนื้อฟันสีเหลืองชัดเจนขึ้น
8. กรรมพันธุ์ บางคนอาจมีผิวเคลือบฟันหรือ Enamel ที่ขาวกว่าและหนากว่า ตั้งแต่กำเนิด
9. สภาวะแวดล้อมบางอย่าง เช่น ในบางพื้นที่อาจมี Fluoride ปนเปื้อนมาในน้ำธรรมชาติปริมาณสูง หรือ ได้รับ Fluoride ในปริมาณสูงเกินขนาด จากยาสีฟัน หรือจากอาหารเสริมที่ผสมFluoride ก็สำหรับฟันมีสีที่ผิดปกติได้
10. อุบัติเหตุและบาดเจ็บ เช่น การหกล้มฟันกระแทกในวัยเด็กอาจกระทบกระเทือนการสร้าง Enamel ในเด็กที่อยู่ในช่วงพัฒนาการของฟัน อุบัติเหตุในวัยนี้อาจมีผลให้สีของฟันผิดปกติเมื่อโตขึ้นเช่นกัน
สีเหลืองคล้ำ บ่งบอกว่าคุณอายุเยอะขึ้น เมื่อคุณอายุเยอะขึ้น ฟันจะเริ่มเหลืองขึ้น เพราะผิวเคลือบฟัน (Enamel) เริ่มผุกร่อน จนเห็นเนื้อฟันสีเหลือง รวมถึงจากคราบอาหารที่ทานในชีวิตประจำวัน
สีน้ำตาล บ่งบอกว่า คุณสูบบุหรี่มานาน จากการที่นิโคติน กำมะถัน ทาร์ เกาะสะสมที่ผิวฟันจนฝังลงไปในเนื้อฟัน จากฟันสีเหลืองก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ำ
สีดำ บ่งบอกว่า ฟันผุมานานจนทำลายเส้นประสาทที่มาเลี้ยงฟันบางส่วนและเนื้อฟันอาจเริ่มตาย หรืออาจจะเกิดจากการเคี้ยวหมาก หรือได้รับสารบางชนิดเช่น ธาตุเหล็ก แมงกานีส หรือ เงินจากอุตสาหกรรมบางประเภท หรือจากอาหารเสริม อาจทำให้สีเส้นสีดำๆเกิดขึ้นบนผิวฟัน
สีขาวแบบตกกระ บ่งบอกว่า คุณได้รับ Fluoride มากเกินไปในช่วงวัยที่ฟันมีการเติบโต ซึ่งอาจจะมาจากการดื่มน้ำที่มี Fluoride ปนเปื้อนปริมาณสูง หรือการใช้ยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากที่มี Fluoride เกินขนาด
ดูเหมือนจะมีอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดที่เราควรเลี่ยงทานเพื่อไม่ให้ฟันเหลือง
หากไม่สามารถเลี่ยงได้ เราก็ยังสามารถป้องกันฟันเหลืองจากการทานอาหารด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำเปล่ามากๆ กลั้วปากหลังทานอาหารทุกครั้ง เพื่อชำระกรด ลดการกัดกร่อน ล้างคราบสีและแบคทีเรียในช่องปาก
- แปรงฟันหลังอาหารทันที โดยเฉพาะหลังจากทานอาหารที่มีสารหลายชนิดที่ทำให้ฟันเหลืองง่ายทั้ง Chromogen Tannin และกรดสูง เช่น กาแฟ ไวน์แดง ก่อนที่คราบจะสะสม แทรกซึมผิวเคลือบฟันลึกขึ้น
- ใช้หลอดดูดเครื่องดื่ม เพื่อป้องกันไม่ให้สารที่ก่อฟันเหลือง สัมผัสกับผิวฟันโดยตรง
- พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ และขูดหินปูนเพื่อลดการสะสมของคราบพลัคและแบคทีเรียที่ทำให้ฟันเหลือง
-หากท่านเป็นคนที่สูบบุหรี่ ควรพิจารณาปรึกษาแพทย์ในการเลิกบุหรี่เพื่อประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพร่างกาย และสุขภาวะในช่องปาก ลดกลิ่นปาก ลดฟันเหลืองน้ำตาล ได้ดีที่สุด
วิธีแก้ฟันเหลืองมีหลายวิธี ทั้งวิธีธรรมชาติทำเองที่บ้าน และวิธีที่ให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยแก้ไขให้ที่คลินิก
ซึ่งแต่ละวิธีจะให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน และความเร็วในการเห็นผลแตกต่างกัน
วิธีธรรมชาติที่ทำเองที่บ้านนั้น ท่านจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำ และใช้เวลานาน เช่น การรับประทานผักที่มีไฟเบอร์สูงเพื่อช่วยขัดฟันในขณะขบเคี้ยว หรือ
ใช้สมุนไพรช่วยขัดฟัน เป็นต้น ซึ่งอาจจะต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่สังเกตุได้
หากท่านต้องการแก้ไขปัญหาฟันเหลืองอย่างรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ภายในระยะเวลาสั้น หรือต้องการมีฟันขาวอย่างเร่งด่วน ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยดูแลได้
ท่านสามารถปรึกษาทันตแพทย์ที่คลินิกเพื่อให้คุณหมอแนะนำตัวเลือกต่างๆที่คลินิกมีให้บริการ เช่น ขัดฟันขาวด้วยนวัตกรรม Air Flow , การฟอกฟันขาว และการทำวีเนียร์
สำหรับท่านที่ต้องการแก้ปัญหาฟันขาวอย่างเร่งด่วน เห็นผลชัดเจนอย่างรวดเร็ว
วันนี้ทางคลินิกขอนำเสนอวิธีที่เห็นผลเร็วที่สุด ฟันขาวขึ้นหลายระดับ
เลือกระดับความขาวเองได้ และขาวคงทนยาวนาน คือการเคลือบผิวฟันด้วยวีเนียร์
คอมโพสิตวีเนียร์ ช่วยให้ฟันขาว รอยยิ้ม Hollywood Smile ภายใน 1 ชั่วโมง
คอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer) คืออะไร
การเคลือบผิวฟันด้วยวัสดุอุดฟัน ที่มีสีคล้ายฟันธรรมชาติ สามารถขึ้นรูปร่างฟันใหม่ที่สมบูรณ์แบบ ปิดทับลงไปที่บริเวณผิวฟันเดิมที่สึกหรอ เสียหาย หรือมีสีที่ไม่สวยงาม ให้เป็นรูปร่างฟันขาวเหมือนฟันจริง และสวยแบบธรรมชาติ
โดยทันตแพทย์จะนำวัสดุเรซินคอมโพสิตมาขึ้นรูปทรงของฟันที่ต้องการ และทำให้แข็งตัวด้วยแสงและขัดผิวให้เรียบและแต่งให้เป็นรูปร่างของฟัน
คอมโพสิตวีเนียร์(Composite Veneer)เหมาะกับใครบ้าง
หากท่านมีความต้องการดังต่อไปนี้
- ต้องการมีฟันขาวอย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
- ต้องการบูรณะฟันที่บิ่น แตก สึก อย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
- ต้องการปิดช่องว่างฟันหน้าที่ห่างเล็กน้อย ให้ฟันดูชิดเรียงสวย ภายใน 1 ชั่วโมง
- ต้องการแก้ฟันซี่เล็กให้ดูเต็ม เรียงสวย ภายใน 1 ชั่วโมง
- ต้องการปรับ ฟันบิด ฟันซ้อน ฟันเก ที่เป็นเล็กน้อย โดยไม่ต้องจัดฟัน
(ในกรณีที่ฟันซ้อนกันมาก หรือฟันเกมากๆ จำเป็นต้องใช้วิธีจัดฟัน)
ข้อดีของการทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- ทำเสร็จภายใน 1-2 ชั่วโมง
- ค่าใช้จ่ายถูกกว่า เซรามิกวีเนียร์หลายเท่า
- ฟันขาวสวยงามขึ้นทันที และเป็นธรรมชาติ
- หากมีการแตก หลุด เสียหาย สามารถซ่อมแซมบางส่วนได้
ข้อจำกัดของการทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- มีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี (สั้นกว่าเซรามิกวีเนียร์)
- มีความแข็งแรงน้อยกว่าเซรามิกวีเนียร์ ควรถนอมการใช้งาน
- วัสดุการมีสีที่เปลี่ยนไปเมื่อใช้ไปนานๆ เนื่องจากดูดซับสีของอาหารและเครื่องดื่มได้
- ความเป็นธรรมชาติเงางามน้อยกว่าเซรามิกวีเนียร์
การเตรียมตัวทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- ดูแลสุขภาวะช่องปากให้สะอาด
- หากมีฟันผุ ให้รักษาฟันผุให้เรียบร้อย
- หากมีโรคเหงือก เหงือกอักเสบ ให้รักษาให้เรียบร้อย
ขั้นตอนการทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
1.นัดหมายทันตแพทย์ล่วงหน้า ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพช่องปากก่อนว่า มีฟันผุหรือไม่ และเอ็กซเรย์ฟันเพื่อดูว่ารากฟันมีความแข็งแรงหรือมีปัญหาโรคเหงือกอักเสบหรือไม่
หากพบฟันผุหรือมีโรคเหงือกอักเสบ ทันตแพทย์จะทำการรักษาให้หายดีก่อน
หากว่าช่องปากมีสุขภาวะฟันที่ปกติ พร้อมในการทำวีเนียร์แล้ว ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำถึงทางเลือกในทำวีเนียร์ ข้อดี ข้อจำกัด ของวีเนียร์แต่ละชนิด การดูแลรักษา ข้อควรระวังหลังทำวีเนียร์
2.เมื่อตัดสินใจเลือกทำตอมโพสิตวีเนียร์แล้ว และสุขภาพช่องปากพร้อมที่จะเริ่มทำได้
ทันตแพทย์จะเทียบสีวัสดุให้ใกล้เคียงกับสีฟันธรรมชาติของผู้รับบริการให้มากที่สุด
และเตรียมพื้นผิวฟันในการนำวัสดุมาแปะ โดยอาจจะกรอหรือขัด บริเวณผิวเคลือบฟันให้มีความหยาบเพื่อให้ยึดติดกับวัสดุได้ทนทานยาวนานที่สุด และอาจมีการปรับแต่งรูปร่างฟันเล็กน้อย
3.ทันตแพทย์จะวางวัสดุคอมโพสิตเรซินลงบนผิวฟันและปั้นรูปร่างให้ได้ตามที่ต้องการ และทำให้วัสดุแข็งตัวโดยการฉายแสง และเข้าที่
4.ในขั้นตอนสุดท้าย ทันตแพทย์จะขัดผิวให้เรียบ กรอแต่งวัสดุให้ได้รูปร่างฟันที่สวยงาม และขัดเงา ก็เป็นอันเสร็จการทำคอมโพสิตวีเนียร์ ที่ทำให้ฟันขาวเรียงสวย มีรอยยิ้ม Hollywood Smile อย่างเป็นธรรมชาติ และผู้รับบริการก็สามารถกลับบ้านได้เลย
เหมาะมากกับผู้รับบริการที่ต้องการฟันขาวสวยแบบทันใจ และไม่ต้องนัดหลายรอบ สามารถเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศต่อได้เลย
การดูแลรักษาหลังทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- แปรงฟันตามปกติวันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะขอบเหงือกบริเวณรอยต่อของวีเนียร์ เพื่อป้องกันฟันผุและป้องกันการอักเสบของเหงือก
- ควรใช้ไหมขัดฟันหลังการแปรงฟัน และบ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ เพื่อขจัดคราบพลัคและลดหินปูนที่จะทำให้เนื้อฟันเหลือง ป้องกันฟันที่ทำวีเนียร์ผุ
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีสีเพื่อป้องกันคราบสีของอาหารแทรกซึมลงไปในผิวคอมโพสิตวีเนียร์ เนื่องจากคอมโพสิตสามารถดูดซับสีได้
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่แข็ง หรือใช้ฟันหน้ากัดอาหารแข็ง เช่น น้ำแข็ง
- หลีกเลี่ยงการใช้ฟันหน้างัดของแข็ง กัดของแข็ง เช่น ห้ามใช้ฟันหน้าเปิดขวดน้ำอัดลม เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการกัดเล็บ หรือ กัดปากกา
- พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก และขูดหินปูน ป้องกันฟันผุ และโรคเหงือก
อาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
- อาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้หลังทำวีเนียร์ช่วงอาทิตย์แรก และอาการจะค่อยๆหายไป เนื่องจากมีการกรอที่ผิวฟันบางส่วนออก ผู้รับบริการอาจใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟันได้ หรือสามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดได้
- วัสดุคอมโพสิตวีเนียร์อาจหลุดลอก หรือ บิ่น หรือ แตกได้ หากมีการใช้อาหารที่แข็ง โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการติดยึดวัสดุวีเนียร์ ผู้รับบริการควรทานอาหารอ่อน และหลีกเลี่ยงอาหารที่เหนียวและแข็ง
หากวัสดุมีการบิ่น แตก หรือหลุดลอก กรุณารีบมาพบทันตแพทย์เพื่อทำการบูรณะวัสดุคอมโพสิตก่อนที่ความเสียหายจะเพิ่มขึ้น
หากคอมโพสิตวีเนียร์(Composite Veneer)แตกทำอย่างไร
คอมโพสิตวีเนียร์เปราะและแตกง่ายกว่าเซรามิกวีเนียร์ แต่คอมโพสิตวีเนียร์สามารถซ่อมแซมได้เมื่อแตกเป็นบางส่วน
ส่วนเซรามิกวีเนียร์ ไม่สามารถซ่อมแซมบางส่วนได้ จะต้องทำใหม่ทั้งซี่เลย และอาจจะต้องกรอเนื้อฟันเพิ่มทุกครั้งที่มีการทำใหม่
เพราะฉะนั้นควรถนอมการใช้งานวีเนียร์ให้ยืดอายุได้นานที่สุดตามคำแนะนำของทันตแพทย์
รีวิวก่อน-หลังทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
ทำ คอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer) ที่ไหนดี
การทำคอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer) เป็นงานที่ต้องใช้ความชำนาญสูงในการออกแบบรอยยิ้มและใช้ความละเอียดในติดวัสดุวีเนียร์ให้เหมาะกับฟันแต่ละซี่และรอยยิ้มของผู้รับบริการแต่ละคน ผู้รับบริการควรเลือกทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเพื่อความงามโดยตรง และเลือกคลินิกที่ได้มาตราฐานที่มีอุปกรณ์ทันสมัย เพื่อให้การติดวัสดุวีเนียร์ทนทานมีอายุการใช้งานที่นาน ซึ่งผู้รับบริการสามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ Grand Dental Clinic ทั้ง 3 สาขา
ได้แก่ สาขาตรงข้ามพาต้าปิ่นเกล้า โทร 095-654-6566
สาขาอนุสาวรีย์ โทร 084-556-5664
สาขาสุขุมวิท ซ.3 (BTS Nana) โทร 095-646-5656
คอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)ราคาเท่าไหร่
ราคาทำคอมโพสิตวีเนียร์โดยปกติราคาซี่ละ 5000 บาท
หากท่านต้องการดูโปรโมชั่น คลิ๊ก
คำถามอื่นๆที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับ คอมโพสิตวีเนียร์ (Composite Veneer)
Q1 : คอมโพสิตวีเนียร์ แตกต่างจาก เซรามิกวีเนียร์อย่างไร
คอมโพสิตวีเนียร์ ใช้วัสดุอุดฟันที่สามารถบูรณะฟันให้ขาว สวย รอยยิ้ม Hollywood Smile ภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งรวดเร็วกว่าการทำ เซรามิกวีเนียร์ ที่วัสดุทำจากเซรามิกในห้องแลปทางทันตกรรมที่ใช้ระยะเวลาการทำประมาณ 10-14 วัน
ซึ่งถือว่าทำเสร็จเร็วกว่าและยังมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เซรามิกวีเนียร์
แต่ความทนทาน อายุการใช้งานเพียง 5-10 ปี ถือว่าสั้นกว่าแบบเซรามิกวีเนียร์ที่มีอายุการใช้งาน 15 ปี คอมโพสิตวีเนียร์จึงเหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาฟันเหลืองแบบเร่งด่วน
Q2 : คอมโพสิตวีเนียร์ แตกต่างจาก การฟอกสีฟันอย่างไร
คอมโพสิตวีเนียร์เป็นการทำให้ฟันขาวสวยด้วยวิธีการแปะวัสดุอุดฟันลงไปบนพื้นผิวฟัน ซึ่งจะทำให้ฟันขาวขึ้นหลายระดับภายใน 1 ชั่วโมง และทำให้รูปร่างฟันสวยเต็มแบบเป็นธรรมชาติ สามารถแก้ปัญหาฟันเล็ก ฟันห่าง ฟันซ้อน ฟันเก แบบเล็กน้อยได้ในคราวเดียว
ส่วนการฟอกสีฟันเป็นการทำให้ฟันขาวด้วยน้ำยาเคมี ซึ่งอาจจะทำให้ฟันขาวขึ้นเล็กน้อย และอาจทำให้ฟันกลับมาสีเข้มอีกในระยะเวลาอันสั้น
ในบางกรณีที่ฟันเหลืองเข้มมาก หรือฟันดำ การฟอกสีฟันไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ การทำวีเนียร์จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า