การฝังรากเทียมคืออะไร
การฝังรากเทียม คือ การผ่าตัดที่นำโลหะผสมหรือโครงฝังลงในตำแหน่งของขากรรไกรภายใต้เหงือก เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ทันตแพทย์จะนำฟันใหม่มาให้ยึดติดกับราก
รากเทียมทำงานได้อย่างไร
รากเทียมจะทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกรเมื่อทั้งสองอย่างประสานกันอย่างสนิทแล้ว และจะให้เกิดการรองรับฟัน โดยฟันปลอมหรือที่ยึดฟันปลอมที่ทำงานร่วมกับรากเทียม จะไม่เลื่อนหรือลื่นออกจากจุดที่ต้องการ ซึ่งจะมีประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะตอนที่พูดและรับประทาน การฝังรากเทียมนี้ ช่วยในการทำฟันปลอม การครอบฟัน และที่ยึดฟันปลอมบนรากเทียมจะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมหรือการทำฟันปลอมแบบธรรมดา
ข้อดีข้อเสีย ของรากฟันเทียม
ข้อดี
1. ในกรณีที่ทำเพื่อแทนฟันที่ถอนไปบางซี่ จะไม่มีการสูญเสียเนื้อฟันธรรมชาติของฟันข้างเคียงที่เหลืออยู่
2. ในกรณีที่ทำเป็นฐานฟันปลอมชนิดถอดได้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และในการยึดติดของฟันปลอมในช่องปาก
3. ทดแทนฟันแท้ที่สูญเสียไป
4. ฝังรากเทียมและใส่ฟันเสร็จในครั้งเดียว
5. สามารถรับประทานอาหารได้ทันที
6. ไม่ต้องเสียเวลาในการรักษาหลายครั้ง
7. เลียนแบบโครงสร้างฟันธรรมชาติ (ใช้งานและสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ)
8. ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียงเพื่อใส่สะพานฟัน
ข้อเสีย
1. ค่าใช้จ่าย ตรงนี้เป็นข้อเสียที่หนักที่สุดของการทำรากเทียม เพราะเทคโนโลยี่ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เราต้องนำเข้ามาทั้งสิ้น เครื่องมือเครื่องใช้แต่ละชิ้นมีราคาแพง ทำให้ค่ารักษาแพงไปด้วย โดยปกติแล้วค่ารักษามักจะสูงกว่า 4 หมื่นบาทขึ้นไปจนถึง 7 หรือ 8 หมื่นบาทต่อซี่ขึ้นอยู่กับสถานที่ ทันตแพทย์ผู้ทำรวมถึงระบบของรากเทียมที่ใช้ นอกจากนี้ถ้าหากผู้ป่วยมีกระดูกไม่แข็งแรงหรือไม่เพียงพอก็ต้องมีการผ่าตัดเพื่อทำการเสริมกระดูกอีกทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากจะเปรียบเทียบในระยะยาวแล้วการทำรากเทียมจะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาหรือแก้ไขที่ต่ำกว่า เนื่องเพราะความแข็งแรง อายุการใช้งาน ที่มากกว่าฟันปลอมประเภทอื่นๆ หลายเท่าตัว
2. ความสวยงาม ถ้าเปรียบเทียบกับฟันปลอมติดแน่นด้วยกันแล้ว รากเทียมจะทำให้สวยงามได้ยากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณฟันหน้าบน ดังนั้น ถ้าหากเป็นบุคคลที่มีริมฝีปากสั้นหรือยิ้มแล้วเห็นคอฟันหรือเป็นคนเหงือกบางหรือมีการถอนฟันไปเป็นระยะเวลานานๆจนกระดูกละลายตัว ควรปรึกษาทันตแพทย์ที่ให้การรักษาถึงแนวโน้มการเกิดปัญหาเหล่านี้ การป้องกัน และ การแก้ไข ก่อนที่จะตัดสินใจ
3. การผ่าตัด เป็นสิ่งที่ทุกคนกังวลใจมากที่สุด เพราะขึ้นชื่อว่าผ่าตัดใครๆก็กลัว แต่ในการทำการผ่าตัดก็มีทั้งง่ายและยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดฝังรากเทียม อาจจะต้องมีการผ่าตัดหลายครั้ง โดยปกติก่อนที่จะให้การรักษาทันตแพทย์จะต้องทำการประเมินผู้ป่วยก่อนว่าอยู่ในวิสัยที่สามารถให้การรักษาได้หรือไม่ถ้าไม่ก็จะทำการส่งต่อผู้ป่วยไปให้ผู้ที่มีความสามารถสูงกว่าดูแลให้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ประโยชน์สูงสุด
4. ระยะเวลา ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าการทำรากเทียมจะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 4 - 6 เดือน ถึงแม้จะมีบางระบบสามารถย่นระยะเวลาลงมาเหลือเพียง 2 เดือนแล้วก็ตาม แต่ก็มีหลายๆกรณีที่ยังต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน ผู้ป่วยบางคนที่ใจร้อนอาจจะไม่ชอบก็จำเป็นต้องไปทำเป็นฟันปลอมประเภทอื่นต่อไป
5. ความต้านทานต่อเชื้อโรค ถึงแม้รากเทียมจะมีลักษณะใกล้เคียงฟันธรรมชาติมาก แต่ก็มีความต้านทานต่อเชื้อโรคต่ำกว่า จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลรักษาความสะอาดให้ดี เพราะถ้ามีการอักเสบของกระดูกรอบๆรากฟันแล้ว อัตราการละลายตัวของกระดูกจะเร็วกว่าและรุนแรงกว่าที่เกิดในฟันธรรมชาติ
การทำรากฟันเทียมเป็นการทำฟันเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่ได้สูญเสียไป
ซึ่งในการรักษานั้นจะประกอบไปด้วยขั้นตอนต่างๆ 4 ขั้นตอนด้วยกัน
ซึ่งจะได้แบ่งขั้นตอนออกเป็นขั้นตอนของการผ่าตัดและการวางฟัน
ซึ่งการทำนั้นจะต้องทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
และมีความชำนาญทางด้านการทำทันตกรรมรากฟันเทียมโดยเฉพาะ
หาเรามีฟันในจุดที่ต้องทำการปลูกรากเทียม
จะต้องทำการถอนและทิ้งระยะเวลาเพื่อใช้ในการฟื้นตัวก่อนทำการปลูกรากเทียม
.
สำหรับขั้นตอนการปลูกรากฟันเทียมมีดังนี้
ขั้นที่ 1 ขั้นตอนของการวางรากเทียม
ขั้นที่ 2 ขั้นตอนของช่วงเวลาพักฟื้น
ขั้นที่ 3 ขั้นตอนของการใส่เดือยรองรับครอบฟัน
ขั้นที่ 4 ขั้นตอนของการใส่ครอบฟัน
#Create Your Healthy Smile
Grand Dental Clinic มี 3 สาขา
มีเครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย ระบบปลอดเชื้อสะอาดตามมาตราฐานสากล
เปิดให้บริการทุกวัน
ติดต่อได้ที่
สาขาตรงข้ามพาต้าปิ่นเกล้า โทร 095-654-6566 Open : 10:00 น. - 20:00 น.
สาขาอนุสาวรีย์ โทร 084-556-5664 Open : 10:00 น. - 20:00 น.
สาขาสุขุมวิท ซ. 3 (BTS นานา) Tel : 095-646-5656 Open : 13:00 น. - 22:00 น.
หมายเหตุ :
อัตราค่ารักษาอื่น ๆ ท่านสามารถโทรสอบถามได้จากทางคลินิก
อัตราค่ารักษาดังกล่าวเป็นการประเมินในเบื้องต้น
ค่าใช้จ่ายจริงทันตแพทย์จะเป็นผู้แจ้งให้ท่านทราบหลังจากทำการตรวจ ปรึกษาและวางแผนรักษาแล้ว
ราคานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า